วันอาทิตย์ที่ 7 สิงหาคม พ.ศ. 2559

เจาะลึกทุกเรื่องของยีนส์

สำหรับคนทั่วๆไป กางเกงยีนส์อะไรก็คงจะเหมือนกัน แต่ถ้าในหมู่คนที่ รักชอบกางเกงยีนส์แล้ว ทุกๆรายละเอียดสร้างแตกต่างเสมอ บทความนี้จะเกริ่นนำ ให้สำหรับมือใหม่หรือผู้ที่เริ่มจะสนใจเรื่องยีนส์ ให้ได้รู้เรื่องราวความเป็นมาและความหมายคร่าวๆกัน
การจะเข้าใจถึงเรื่องยีนส์ได้ดีที่สุดน่าจะเป็นการเข้าใจที่มาของคำที่ใช้เรียกส่วนต่างๆของมัน เราจึงจะเริ่มจากคำเบสิคเหล่านี้กันก่อน
Denim คือชื่อที่เราใช้เรียกผ้าทีมีลักษณะการทอเฉพาะตัว(คล้ายกับผืนผ้าใบ) ซึ่งจะถูกนำไปใช้ในการตัดเป็นกางเกงยีนส์แบบต่างๆ พูดง่ายๆก็คือมันใช้เรียกผ้าก่อนที่จะนำไปทำเป็นกางเกงยีนส์นั่นเอง คำว่า Denim นั้นมาจากภาษาฝรั่งเศษ คำว่า Nimes ซึ่งเป็นชื่อเมืองทางตอนใต้ ที่ริเริ่มกระบวนการทอผ้าแบบนี้
Raw Denim หรือ Dry Denim คือผ้า denim ที่ย้อมสีและทอเสร็จแล้ว แต่ยังไม่เคยถูกล้าง หรือไม่เคยโดนน้ำเลย(ถึงเรียกว่า Dry Denim) ซึ่งเป็นผ้าแบบที่คนเล่นยีนส์นิยมกัน เพราะเมื่อใส่ไประยะนึงแล้ว กางเกงจะมีริ้วลอยการใส่เกิดขึ้นหรือที่เรียกกันว่า Fade นั่นเอง ซึ่งไอ่การ fade นี้จะมีอะไรที่เฉพาะตัว และอาจจะแตกต่างกันได้มากมาย แม้จะเป็นกางเกงยีนส์ รุ่นเดียวกัน แบบเดียวกันเลยก็ตาม สำหรับบางคน Fade อาจจะเป็นทุกสิ่งทุกอย่างของกางเกงยีนส์เลยก็ได้ ซึ่งเราจะมาขยายความกันอีกทีในบทความต่อๆไป
Indigo คือสีที่ผ้า denim นิยมนำมาใช้ย้อมผ้า ในภาษาไทยก็คือ สีคราม หรือชื่อของต้นไม้ชนิดหนึ่ง ซึ่งให้สีน้ำเงิน ซึ่งคนสมัยก่อน นิยมนำมาย้อมเครื่องนุ่งห่มที่อยากได้สีน้ำเงินเข้มๆกัน ถ้านึกถึงยีนส์ก็จะนึกถึงสีน้ำเงินครามนี้นี่เอง ส่วนที่บ้านเราก็มีเหมือนกัน นั่นก็คือ เสื้อหม้อห้อมของชาวเหนือนั่นเอง
Jean ก็คือกางเกงที่ทำขึ้นจากผ้า Denim อย่างที่เราๆรู้ๆกัน คำว่า Jean ก็มาจากภาษาฝรั่งเศษอีกแล้ว โดยเพี๊ยนมาจากคำว่า Genes แต่เป็นชื่อเมืองของประเทศ Italy (เมือง Genoa) ซึ่งเดาได้ว่า เป็นเมืองแห่งแรกที่นำผ้า Denim มาทำเป็นกางเกง กางเกงยีนส์จึงไม่ได้มีต้นกำเนิดมาจากอเมริกาอย่างที่หลายคนเข้าใจ แต่กางเกงยีนส์นั้นโด่งดังและเป็นที่นิยมกันจากอเมริกา โดยพ่อค้าที่มาจากยุโรปชื่อ Levis Strauss ผู้ก่อตั้งกางเกงยีนส์ลีวายนั่นเอง
Selvedge หรือ Selvage เป็นคำที่เพี้ยนมาจากภาษาอังกฤษคำว่า Self-edge หรือ ส่วนปลายสุดของผ้านั่นเอง อันนี้ที่คนไทยเรียกว่า ยีนส์ริม เช่น ลีวายริมแดง เนื่องจากสมัยก่อน เครื่องทอผ้ามีขนาดหน้าผ้าแคบ เวลาตัดเป็นกางเกงยีนส์ออกมาจึงมีขอบติดมาด้วย ถ้าสังเกตกางเกงยีนส์สมัยใหม่จะไม่มีแล้ว เพราะหน้าผ้าจะกว้างขึ้นเยอะ ทำให้การจะทำกางเกงยีนส์ริมสมัยนี้ ยากขึ้น ราคาจึงสูงขึ้นตามไปด้วย และกางเกงยีนส์แบบนี้เอง ที่เหล่านักเล่นยีนส์ชอบกันนักแล

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น